พระพุทธรูปประจำวันพุธ
ปางอุ้มบาตร
ลักษณะพระพุทธรูป
พระพุทธรูปปางนี้ อยู่ในพระอิริยาบถยืน ส้นพระบาททั้งสองชิดติดกัน
พระหัตถ์ทั้งสองข้างชิดกัน พระหัตถ์ทั้งสองยกประคองบาตรราวสะเอว
มีบาตรอยู่ฝ่าพระหัตถ์ในท่าประคอง
ประวัติและความสำคัญ
ประวัติที่เป็นเรื่องราวนั้นสืบเนื่องต่อมาจากพระพุทธรูปปางแสดงอิทธิปาฎิหาริย์
กล่าวคือ เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จไปยังพระนครกบิลพัสดุ์
ครั้งแรกทรงทำอิทธิปาฎิหาริย์ เหาะขึ้นไปบนอากาศ
ทรมานให้พระประยุรญาติได้ถวายบังคมแล้วเสด็จลงมาประทับนั่ง
บนพระบวรพุทธอาสน์ ยังฝนโบกขรพรรษ์ให้ตกลงในท่ามกลางสมาคมพระญาติ
แล้วทรงประกาศมหาเวสสันดรชาดก ยกขึ้นเป็นเทศนา
ครั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบแล้ว บรรดาพระญาติทั้งหลาย
มีพระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดาเป็นประธาน ก็ได้เบิกบานปีติปาโมทย์
เปิดพระโอษฐ์แซ่ซ้องสาธุการแล้ว
พระญาติทั้งหลายก็กราบทูลลาคืนยังพระราชสถานแห่งตน
มิได้มีพระญาติสักองค์หนึ่ง
ได้กราบทูลอาราธนาให้ทรงรับอาหารบิณฑบาตรในยามเช้าพรุ่งนี้
แม้แต่พระเจ้าสุทโธทนะ
ก็เพียงแต่ทูลลามิได้ทูลอาราธนาเสวยพระกระยาหารเช้า เช่นกัน
ด้วยทรงนึกไม่ถึงว่า ธรรมดาพระจะต้องอาราธนา
จึงจะได้มารับบิณฑบาตรในบ้านซึ่งเป็นปกติของสามัญชนธรรมดาทั่วไป
พระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดา ทรงรู้สึกอย่างเป็นพระญาติที่สนิทว่า
พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระโอรส
พระสงฆ์สาวกเหล่านั้นก็เป็นศิษย์ของพระโอรสแล้วพระโอรสจะเสด็จไปไหนเสีย
เมื่อไม่มายังพระราชนิเวศน์ของพระองค์ จึงไม่จำเป็นต้องทูลอาราธนา
พระเจ้าสุทโธทนะทรงแน่พระทัยเป็นอย่างยิ่งว่า
พระบรมศาสดาจะต้องพาพระสาวก
ทั้งหลายมาเสวยพระกระยาหารในพระราชนิเวศน์ของพระองค์แน่นอน
จึงไม่ทรงทูล อาราธนา ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับเห็นว่า
หากออกพระกระแสรับสั่งอาราธนา ก็จะกลายเป็นว่า
พระบรมศาสดาเป็นคนอื่นมิใช่พระโอรส
ครั้นพระเจ้าสุทโธทนะเสด็จถึงพระราชนิเวศน์
จึงโปรดให้พนักงานจัดแจงตกแต่งอาหารอันประณีตเป็นพิเศษไว้พร้อมมูล
เพื่อถวายพระบรมศาสดาและพระภิกษุสงฆ์สาวกทั้งมวลในวันพรุ่งนี้
ตลอดเวลาเย็นถึงเวลารุ่งเช้า
เมื่อไม่ปรากฏว่ามีใครมาอาราธนาพระบรมศาสดาไปเสวยที่ใดแล้ว
พระองค์ก็ทรงพิจารณาว่า พระพุทธเจ้าในปางก่อน เมื่อเสด็จประทับอยู่
ณ พระนครของพระพุทธบิดาแล้ว ทรงปฎิบัติอย่างไร
ก็ทรงทราบด้วยพระญาณว่า
พระพุทธเจ้าในปางก่อนได้เสด็จไปบิณฑบาตรตามลำดับตรอก
ครั้นพระพุทธองค์ทรงทราบอย่างนี้แล้ว
จึงทรงถือเอาบาตรและจีวรพาภิกษุสงฆ์
เสด็จพระดำเนินไปตามท้องถนนหลวง ปรากฏแก่ประชาราษฏร์
ต่างได้มีโอกาสชมพระบารมี และมีความปีตียินดีประณมหัตถ์นมัสการ
นับเป็นครั้งแรกที่ชาวเมืองกบิลพัสดุ์ได้เห็น
พระบรมศาสดาทรงอุ้มบาตร เสด็จพระพุทธลีลาโปรดประชาสัตว์
เป็นการเพิ่มพูนความปีติ โสมนัส
พระพุทธจริยาตอนนี้เป็นเหตุให้พุทธบริษัทสร้างพระพุทธรูป เรียกว่า
ปางอุ้มบาตร
คาถาสวดบูชา
สัพพาสีวะชาตีนัง ทิพพะมันตาทะคัง วิยะ ยันนาเสติ วิสังโฆรัง
เสสัญจาปิ ปะริสสะยัง
อาณักเขตตัมหิ สัพพัตถะ สัพพะทา สัพพะปาณิณัง สัพพะโสปิ นิวาเรติ
ปะริตตันตัมภะณามะเส ฯ |