PRAKRUANGTHAI.ORG - ศูนย์พระเครื่องไทย [เครื่องรางยอดนิยม]

 

เชษฐ์ ราชบุรี
คุณพิเชษฐ์ โอท็อป
โทร. 062-549-9669
bhicheat@hotmail.co.th
ขณะนี้มีผู้เข้าชม: 19 คน
ผู้เข้าชม: 2334 ครั้ง
Administrator
สงวนลิขสิทธิ์ตาม
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
PRAKRUANGTHAI.ORG
จัดทำโดย
สยามอนุรักษ์ ดอท คอม
เครื่องรางยอดนิยม
ตะกรุดไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กทม. ตระกรุดประจุพระนามเทวดา
คลิกเพื่อดูรายละเอียด
รายละเอียด:
ตะกรุดไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กทม. ตระกรุดประจุพระนามเทวดา "ไม่มีใครทำได้อย่างกู" 1 ใน 9 ของสุดยอดเครื่องรางสะท้านแผ่นดินของไทย ดอกนี้พิเศษครับ เป็นจุกน้ำปลาเล็ก สภาพโดยรวมสวยสมบูรณ์มากครับ ตลับทองฝังเพชรแท้คัดทุกเม็ด พร้อมบัตรรับรองสมาคม....

อัมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู อันเลื่องลือ คือ "ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์" ตามตำว่าไว้ ประจุด้านเดียวเรียกไม้พ่อครู ประจุสองด้านเรียกว่า "นิ้วเพชรพระอิศวร" "โคนชี้ตาย ปลายชี้เป็น" การสร้างไม้ครูนั้นเรียกได้ว่าสร้างยากมากๆ ผู้ที่มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงจะสร้างได้สำเร็จ วัสดุที่ใช้สร้างก็สุดแสนจะหายาก เพราะท่านต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เพื่อจะไปหาไม้ไผ่ และจะต้องเป็นไม้ไผ่สีสุกที่ถูกฟ้าผ่าล้ม ปลายชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ตามตำราระบุว่า ไม้ไผ่ลำนี้เปรียบประหนึ่งไม้ยันพระวรกายของเท้าเวสสุวรรณ และภายในเจ็ดวันท่านเฝ้ารอโขลงช้างที่จะผ่านมาพบ แล้วกระโดดข้ามกอไผ่นั้นทั้งโขลง ซึ่งก่อนที่ท่านจะตัดไม้ไผ่ลำดังกล่าว ท่านต้องทำพิธีพลีกรรมก่อน นั่นก็คือ การขอของจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้มากยิ่งขึ้น เมื่อท่านได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านจะนำมาลงอักขระ แล้วใช้เป็นไม้เท้ายันกายในยามที่ท่านเดินธุดงค์ ขณะที่ท่านเดินธุดงค์และ เมื่อได้พบศพที่ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ก็จะใช้ไม้เท้านั้นจิ้มศพจนกว่าจะครบ ๗ศพ ตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์ของหลวงปู่นานถึง ๓๐ ปี จากนั้นท่านก็จะนำไม้เท้าอันนี้มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ เรียกว่าตอก เตรียมไว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน ถ้าลูกศิษย์คนใดอยากได้ไม้ครูจะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ และถ้าท่านตอบตกลงทำให้ ผู้นั้นจะต้องจัดเครื่องไหว้ทำพิธี ซึ่งต้องมีบายศรี หัวหมู มะพร้าวอ่อน และอื่นๆ ตามแต่ที่หลวงปู่ท่านจะสั่ง แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ไม้ไผ่ตัดเหลือข้อไว้หนึ่งข้อ หรือไม้ที่เจาะรู จะไม้ ผยุง ไม้ขนุน และอีกหลายอย่าง เมื่อได้ของครบแล้ว ท่านก็จะทำพิธีลงพระนามในไม้ตอกที่ท่านเตรียมไว้


มูลค่าสะสม: โชว์ภาพพระ/ขายแล้วครับ

ตะกรุดไม้ครูนิ้วเพชรพระอีศวร หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กรุงเทพฯ (03)
คลิกเพื่อดูรายละเอียด
รายละเอียด:
ตะกรุดไม้ครู"นิ้วเพชรพระอีศวร" หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กรุงเทพฯ 1 ใน 9 เครื่องรางสะท้านแผ่นดินของไทย ดอกนี้อุุดประจุ 2ด้าน ถักลายจรเข้ขบฟัน สภาพสวยสมบูรณ์ พร้อมบัตรรับรองสมาคมครับ

อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู อันเลื่องลือ คือ "ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์" ตามตำว่าไว้ ประจุด้านเดียวเรียกไม้พ่อครู ประจุสองด้านเรียกว่า "นิ้วเพชรพระอิศวร" "โคนชี้ตาย ปลายชี้เป็น" การสร้างไม้ครูนั้นเรียกได้ว่าสร้างยากมากๆ ผู้ที่มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงจะสร้างได้สำเร็จ วัสดุที่ใช้สร้างก็สุดแสนจะหายาก เพราะท่านต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เพื่อจะไปหาไม้ไผ่ และจะต้องเป็นไม้ไผ่สีสุกที่ถูกฟ้าผ่าล้ม ปลายชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ตามตำราระบุว่า ไม้ไผ่ลำนี้เปรียบประหนึ่งไม้ยันพระวรกายของเท้าเวสสุวรรณ และภายในเจ็ดวันท่านเฝ้ารอโขลงช้างที่จะผ่านมาพบ แล้วกระโดดข้ามกอไผ่นั้นทั้งโขลง ซึ่งก่อนที่ท่านจะตัดไม้ไผ่ลำดังกล่าว ท่านต้องทำพิธีพลีกรรมก่อน นั่นก็คือ การขอของจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้มากยิ่งขึ้น เมื่อท่านได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านจะนำมาลงอักขระ แล้วใช้เป็นไม้เท้ายันกายในยามที่ท่านเดินธุดงค์ ขณะที่ท่านเดินธุดงค์และ เมื่อได้พบศพที่ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ก็จะใช้ไม้เท้านั้นจิ้มศพจนกว่าจะครบ ๗ศพ ตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์ของหลวงปู่นานถึง ๓๐ ปี จากนั้นท่านก็จะนำไม้เท้าอันนี้มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ เรียกว่าตอก เตรียมไว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน ถ้าลูกศิษย์คนใดอยากได้ไม้ครูจะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ และถ้าท่านตอบตกลงทำให้ ผู้นั้นจะต้องจัดเครื่องไหว้ทำพิธี ซึ่งต้องมีบายศรี หัวหมู มะพร้าวอ่อน และอื่นๆ ตามแต่ที่หลวงปู่ท่านจะสั่ง แต่ที่ขาดไม่ได้คือ ไม้ไผ่ตัดเหลือข้อไว้หนึ่งข้อ หรือไม้ที่เจาะรู จะไม้ ผยุง ไม้ขนุน และอีกหลายอย่าง เมื่อได้ของครบแล้ว ท่านก็จะทำพิธีลงพระนามในไม้ตอกที่ท่านเตรียมไว้


มูลค่าสะสม: โชว์ภาพพระ/ขายแล้วครับ

หนุมานหลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ นนทบุรี
คลิกเพื่อดูรายละเอียด
รายละเอียด:
หนุมานหลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จ.นนทบุรี เป็นหนุมานที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 2 รองจากหลวงพ่อสุ่น..วัดศาลากุล เท่านั้นครับ

หลวงพ่อกุหลาบ ท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อสุ่น วัดเกาะศาลากุนสืบทอดวิชาการสร้างหนุมานจากหลวงพ่อสุ่นวัดเกาะศาลากุน ประสบการณ์สูงจนเป็นตำนานกล่าวขานใช้แทนหนุมานของหลวงพ่อสุ่น วัดเกาะศาลากุน ได้อย่างสนิทใจครับคนรุ่นเก่ามักจะเล่ากันว่าหลวงพ่อกุหลาบนั้นเสกหนุมานจนกระโดดเลยครั แม้แต่หลวงพ่ออ่าง วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ผู้เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อกุหลาบ ในยุคปัจจุบันก็ยังมีความสามารถที่เสกหนุมานให้กระโดดได้เช่นเดียวกันกับอาจารย์ของท่านเลยครับ...

หนุมานหลวงพ่อกุหลาบ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ตัวนี้ขนาดใหญ่กำลังดี เนื้องาเก่าจัดดูง่ายๆ (มีบัตรรับรอง สมาคม) สภาพโดยรวมสวยมาก มาพร้อมเลี่ยมทองสั่งทำพิเศษอย่างดีพร้อมใช้เลยครับ


มูลค่าสะสม: โชว์ภาพพระ/ขายแล้วครับ

เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง เขตบางกอกน้อย กทม. (เปือย)
คลิกเพื่อดูรายละเอียด
รายละเอียด:
เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เป็นสุดยอดเบี้ยแก้อันดับหนึ่งของไทย เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคีเครื่องรางยอดนิยมที่มีความเข้มขลังและได้รับความนิยมกันมาตลอด ท่านเป็นพระเถราจารย์ที่มีผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสมากที่สุดองค์หนึ่งของย่านคลองบางกอกน้อย และเป็นพระคณาจารย์ร่วมสมัยกับสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง หลวงปู่รอดท่านเป็นพระเถระที่เชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนาธุระ และมีเกียรติคุณเป็นพิเศษในทางพุทธาคมและเวทย์วิทยาคมครับ .....

การสร้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง นั้นท่านพิถีพิถันมาก เริ่มจากตัวเบี้ยจะต้องมีฟัน 32ซี่ เพื่อให้ครบอาการ32ของคน และการบรรจุปรอท ต้องให้ได้น้ำหนัก 1บาท ขาดไม่ได้เพราะว่าจะเหมือนกับคนที่ไม่เต็มบาท บรรจุปรอทแล้วนำมาอุดด้วยชันโรงใต้ดิน ส่วนใหญ่ก็จะหุ้มด้วยตะกั่วทุบแล้วลงอักขระยันต์พระเจ้า5พระองค์ การปลุกเสกท่านจะท่องคาถาถอยหลัง ให้กลับเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี แล้วจากนั้นค่อยให้ลูกษิตนำไปถักเชือกลงรักหรือยางมะพลับทับอีกทีเพื่อรักษาเชือกให้ทนทาน ...

สำหรับเบี้ยลูกนี้เป็นเบี้ยเปือยๆ..เป็นเบี้ยยุคกลางปลายๆของท่าน สภาพสวยสมบูรณ์เดิมมากเก่าเก็บไม่ผ่านการใช้ หุ้มตะกั่วทุบแล้วลงยันต์พระเจ้า 5พระองค์ชัดเจนครับผม


มูลค่าสะสม: โทรถามราคา

เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง เขตบางกอกน้อย กทม. (ยุคต้น)
คลิกเพื่อดูรายละเอียด
รายละเอียด:
เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ (ยุคต้น) เป็นสุดยอดเบี้ยแก้อันดับหนึ่งของไทย เป็นหนึ่งในชุดเบญจภาคีเครื่องรางยอดนิยมที่มีความเข้มขลังและได้รับความนิยมกันมาตลอด ท่านเป็นพระเถราจารย์ที่มีผู้เคารพศรัทธาเลื่อมใสมากที่สุดองค์หนึ่งของย่านคลองบางกอกน้อย และเป็นพระคณาจารย์ร่วมสมัยกับสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง หลวงปู่รอดท่านเป็นพระเถระที่เชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนาธุระ และมีเกียรติคุณเป็นพิเศษในทางพุทธาคมและเวทย์วิทยาคมครับ .....

การสร้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง นั้นท่านพิถีพิถันมาก เริ่มจากตัวเบี้ยจะต้องมีฟัน 32ซี่ เพื่อให้ครบอาการ32ของคน และการบรรจุปรอท ต้องให้ได้น้ำหนัก 1บาท ขาดไม่ได้เพราะว่าจะเหมือนกับคนที่ไม่เต็มบาท บรรจุปรอทแล้วนำมาอุดด้วยชันโรงใต้ดิน ส่วนใหญ่ก็จะหุ้มด้วยตะกั่วทุบแล้วลงอักขระยันต์พระเจ้า5พระองค์ การปลุกเสกท่านจะท่องคาถาถอยหลัง ให้กลับเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี แล้วจากนั้นค่อยให้ลูกษิตนำไปถักเชือกลงรักหรือยางมะพลับทับอีกทีเพื่อรักษาเชือกให้ทนทาน ...

สำหรับเบี้ยลูกนี้เป็นการถักเชือกลงรักหนา ลายถักเชือกมีเส้นคาดกลางสลับฟันปลามาตรฐานนิยมยุคต้นครับ เนื้อรักจีนเก่าอายุกว่าร้อยปีเริ่มแยกตัว รานเป็นเกร็ดกระดี่ สภาพโดยรวมถือว่าสวยมากครับเชือกสมบูรณ์ทั้งตัวขาดไปเฉพาะหูห้อยซึ่งเป็นเรื่องปกติครับผม..


มูลค่าสะสม: โชว์ภาพพระ/ขายแล้วครับ

จำนวน: 61 รายการ, ขณะนี้อยู่หน้าที่ 1 ในทั้งหมด 13 หน้า
   [1] | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13
หน้าต่อไป | หน้าสุดท้าย